วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2553

๑๐ วิธี...ระงับใจร้อน

โลกร้อน อากาศร้อน ความร้อนในใจของคนเราก็พุ่งสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
เพราะฉะนั้นฉบับนี้ จะพาไปหาวิธีคลายร้อนในใจแบบง่ายๆ
สำหรับใครที่กำลังมีปัญหารุ่มร้อนใจเพราะจิตใจของคนเ รานั้น
บาง ครั้งก็แข็งแกร่งดังหินผา บางครั้งก็อ่อนแอราวปุยนุ่น
ดังนั้นเราจึงควรบริหารจิตใจของเราทุกวัน
ให้รับสิ่งที่จะเข้ามากระทบจิตใจ ได้

เพราะปัญหาที่ผ่านเข้ามาในวันนี้
วันหนึ่งข้างหน้าก็จะถอยห่างออกไป
ลองย้อนกลับไปมองเรื่องราวที่ผ่านมา
จะเห็นว่าบางเรื่องที่ตอนนั้นคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่
ก็กลับกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
อากาศร้อนอย่างเดียวก็พอแล้ว
อย่าปล่อยให้ใจร้อนตามไปด้วย

นั บ ห นึ่ ง ใ ห้ ถึ ง สิ บ

เริ่ม จากวิธีพื้นฐานอย่างนับเลขในใจ
เวลาที่เราโกรธใครให้ลองนับหนึ่งถึงสิบ
หรือจะนับถึงร้อยถึงพันก็คงไม่มีใครว่า
เพราะการนับเลขจะส่งผลให้เรามีสมาธิ
และยังได้มีเวลาไตร่ตรองคิดถึงสิ่งที่ผู้อื่นทำกับเร า
และสิ่งที่เรากำลังคิดจะทำด้วย

ป ล่ อ ย ว า ง ไ ม่ ยึ ด ติ ด

ปัญหา ที่เกิดขึ้นนทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะคนเรามีอัตตามากเกินไป
หากเราลองเปลี่ยนความคิด ไม่ยึดติดกับตัวตน
แล้วลองคิดว่าสุดท้ายวันหนึ่งเราก็ต้องแตกดับ และสลายไป
วนเวียนเป็นวัฏจักรเช่นนี้เรื่อยไป
เพราะฉะนั้นถ้าเรายอมรับกับวัฏจักรแห่งการเกิด-ดับนี้แล้ว
ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็คงเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

เ ข้ า หู ซ้ า ย ท ะ ลุ หุ ข ว า

อย่า เพิ่งเข้าใจผิดนะครับ
เพราะปกติแล้ว คำว่า "ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา" นั้น
เขาใช้เปรียบเปรยคนที่ฟังอะไรแล้วไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ ไม่รับความคิดใหม่ๆ เข้ามา
แต่ตอนนี้ผมกำลังหมายถึง ถ้าเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้ว
การฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวานั้นนับเป็นเรื่องที่ดี
เพราะจะทำให้เราไม่ใส่ใจกับสิ่งที่ใครกล่าวมา

คิ ด ม า ก ไ ป ห รื อ เ ป ล่ า

อาการ คิดมากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเครียดได้
ยิ่งอากาศร้อนๆ ยิ่งเหตุการณ์อะไรๆ ก็ไม่เป็นใจด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ร้อนรน
เมื่อเกิดเรื่องก็จะยิ่งเก็บมาคิด จนไม่เป็นอันกินอันนอน
ลองเปลี่ยนจากความคิดเรื่องแย่ ๆ เปลี่ยนเป็นคิดเรื่องดีๆ บ้างสิคะ
เพราะความคิดนั้นเป็นตัวกำหนดวิถีชีวิตของเรา ไม่เชื่อลองทำดู คิดดี ทำดี เท่านี้พอ

ฝึ ก ส ม า ธิ

การฝึกสมาธิให้ใจสงบนั้นมีหลายรูปแบบ จะนั่งสมาธิหรือเดินสมาธิก็ได้
อย่างที่เคยเขียนในเล่มก่อนๆ ว่า
เมื่อมีสมาธิก็มีสติ เมื่อมีสติก็เกิดปัญญา
เวลาเกิดปัญหาก็จะมีทางแก้ไข

รู้ เ ข า รู้ เ ร า

บางครั้งแค่เราลองมองใส่ใจนิสัยของคนรอบข้างบ้าง
ก็สามารถที่จะทำให้เราอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างไม่ ยากเย็น
แต่เราจะต้องรู้จักระงับสติอารมณ์ของเราด้วย
เพราะเมื่อเราทราบแล้วว่าเขาเป็นคนแบบนี้หากเรารับนิสัยเขาไม่ได้
ก็ให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้เป็นดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมีเรื่องมีราวกัน

ข อ โ ท ษ

หากเราทำผิด การใช้คำว่าขอโทษนั้น
ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด ไม่ใช่เรื่องยากเลย
ถ้าเราจะต้องเอ่ยคำขอโทษ
เพราะคำๆ นี้ไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีของเราตกต่ำลง
หากแต่เป็นการรู้จักยอมรับในสิ่งที่ตน เองผิดต่างหาก
อีกทั้งยังจะทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายคลี่คลายลงได้
อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรใช้คำขอโทษอย่างพร่ำเพรื่อ
เพราะจะทำให้ติดเ ป็นนิสัยที่ไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ระมัดระวัง

ยิ้ ม แ ห่ ง ส ย า ม

รอยยิ้มสร้างโลกนี้ให้สดใสได้ เหมือนดังคำที่บอกว่า
"ถ้าคุณยิ้ม โลกก็จะยิ้มให้คุณ"
เพียงแค่คุณไปไหนแล้วมีแต่รอยยิ้มให้คนรอบข้าง
คนรอบข้างก็จะอารมณ์ดีขึ้นไปด้วย

ห า ย ใ จ เ ข้ า - อ อ ก ลึ ก ๆ

การ หายใจเข้าออกลึกๆ นานๆ จะทำให้เราได้มีสติยั้งคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
และทำให้ร่างกายเราได้รับการผ่อนคลายจากลมหายใจที่รั บเข้าและส่งออก
ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปในช่วงเวลาที่มีอารมณ์โกรธ
ลองหายใจลึกๆ เข้า – ออก อย่างช้าๆ จะช่วยให้สถานการณ์รอบข้างดีขึ้น

ไ ม่ ห นี แ ต่ ไ ม่ ป ะ ท ะ

หากเราไม่สามารถจะทำอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้
แต่จะเก็บเอาไว้ก็กลัวจะกลายเป็นคนเก็บกดจะเดินหนี
ก็จะกลายเป็นคนไม่ยอมรับ ความจริง
หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้
คงต้องใช้สติที่รอบคอบตัดสินใจในการแก้ปัญหา
รับฟังสิ่งที่ผู้อื่นว่ามา แล้วก็นำไปปรับปรุงในส่วนที่ไม่ดี
หากแต่เป็นสิ่งที่เขาพูดพร่ำเพรื่อก็ไม่ต้องกังวลให้ เสียเวลา เลิกคิดไปเลย
ไม่จำเป็นต้องไปต่อปากต่อคำด้วย
เพราะการทำเช่นนั้น ไม่ได้ส่งผลดีอะไรขึ้นมาเลย

เมื่อรู้กันอย่างนี้แล้ว ก็ควรที่จะทำตามกัน
เพราะความใจร้อนเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย อาจจะนำไปสู่การสูญเสียก็ได้........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น