วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อาหาร 8 ชนิดเพิ่มภูมิต้านทานป้องกัน และลดความรุนแรงของหวัด

1. อาหารรสเผ็ดรวมทั้งเครื่องเทศ

เช่น กระเทียม ลดอาการคัดจมูก ช่วยให้หายใจโล่งขึ้น


2. กระเทียม



สารอาหาร

โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก
วิตามินซี วิตามินบี1 และบี 2
มีน้ำมันหอมระเหย มีสารประกอบมากกว่า 200 ชนิด
ประกอบด้วยอินทรีย์กำมะถันหลายชนิด เช่น อัลลิซิน (allicin) 0.6-1.0%
อัลลิอิน (alliin) ไดอัลลิลไดซัลไฟด์ (diallyl disulfide)
เมททิลอัลลิลไตรซัลไฟด์ (methyl allyl trisulfide) คูมาริน (coumarin)
เอสอัลลิลซีสทีอีน (S-allylcysteine) เป็นต้น
มีเอนไซม์หลายชนิด เช่น อัลลิเนส (allinase) เปอรอกซิเดส (peroxidase)
อินเวอร์เทส (invertase) และไทโรซิเดส (tyrosidase)
มีน้ำมัน 0.1 - 0.4 %

สรรพคุณและวิธีใช้

ในยาแผนโบราณใช้กระเทียมเป็นยาบำบัดอาการไอ แก้ไข้หวัด แก้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ช่วยย่อย แก้ความดันสูง เส้นเลือดเปราะ แก้โรคท้องเสีย ขับลม และขับเหงื่อ

มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับฤทธิ์ของกระเทียมในด้านการรักษา ได้แก่ การช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตันและกล้ามเนื้อหัวใจหยุดทำงานเฉียบพลัน ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยเพิ่ม HDL หรือคอเลสเตอรอลชนิดดีในเลือด ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด

พบว่ากระเทียมช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรควัณโรค
คอตีบ ปอดบวม ไทฟอยด์ และคออักเสบได้ มีสารต้านมะเร็ง เช่น สาร S-allylmercaptocysteine ลดการเกิดมะเร็งในต่อมลูกหมาก (50%) ช่วยเพิ่มความจำ และช่วยรักษาโรคกลากเกลื้อน

สาร allyl sulfides ช่วยลดการผลิตเอนไซม์ phase 1 ซึ่งเป็นอันตรายต่อเซลล์ และนำไปสู่การเกิดเซลล์มะเร็ง จึงป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งได้ดีเยี่ยม

สารนี้ในกระเทียมจะมีขึ้นเมื่อทุบให้แตกก่อนแล้ววางไว้ 10 นาทีก่อนจะนำไปใช้ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเกิดโรคเสื่อมต่างๆ และโรคของหลอดเลือด ผู้ป่วยเบาหวาน มะเร็ง และเอดส์น่าใช้ประจำ ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน (กินวันละ 5-7 กลีบ) และใช้ควบคุมระดับคอเลสเตอรอล วันละ 2 กลีบ)

ข้อควรระวัง

ไม่ควรกินกระเทียมขณะท้องว่างเพราะอาจระคายเคือง เกิดคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องได้
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ควรงดรับประทานสัก 3- 4 วัน เพราะจะทำให้เลือดออกง่ายและหยุดไหลช้ากว่าปกติ
มารดาที่ให้นมลูก หากกินมากเกินไปอาจทำให้ลูกเป็นโรคร้องสามเดือน (Colic)
หมายเหตุ
ต้นกระเทียม ปลูกแล้วถอนมาใช้ตั้งแต่ยังไม่เป็นหัว ส่วน Leeks เป็นกระเทียมอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งต้นใหญ่กว่า กินต้นและใบได้ มีโพเลท 30 % มีเหล็ก และวิตามินซีอย่างละ 20%
Aged garlic ผลิตโดยเทคนิคใหม่ของญี่ปุ่น ช่วยลดกลิ่นและสารอื่นๆ ที่ไม่ต้องการออก แต่มีสารเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย โดยเสริมการทำงานของเซลล์ macrophages เซลล์ T-lymphocyte และ การสร้างแอนติบอดี มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ต่อมาพบว่ากระเทียมสด แห้ง และสกัด ล้วนมีประโยชนเช่นเดียวกัน

ช่วยลดอาการหวัด จะใส่ในอาหาร หรือทานวันละ 1-2 กลีบก็ได้


3. ดื่มน้ำมาก ๆ






แทนการดื่มกาแฟ น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่มีรสหวาน อาจดื่มน้ำผลไม้คั้นสดบ้างเพื่อเพิ่มวิตามินซี เครื่องดื่มร้อนที่ช่วยได้ เช่น ชา น้ำมะนาวอุ่น ๆ จะช่วยลดเสมหะได้

4. ซุปไก่ร้อน ๆ






ช่วยลดอาการคัดจมูก อาจเติมผักหลาย ๆ สี เพื่อเพิ่มสารแอนติออกซิแดนต์ ซุปไก่ที่ผ่านกระบวนการตุ๋นเคี่ยวนาน ๆจนโปรตีนย่อยสลายเป็นไดเทปไทน์จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันช่วยให้ร่างกายสดชื่น และยังให้โปรตีนที่ดีต่อร่างกายด้วย


5.สารต้านอนุมูลอิสระ




ผักหรือผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเช่น แครอท ผักใบเขียวจัด ส้ม ฝรั่ง องุ่น แคนตาลูป มะละกอสุก ผักและผลไม้เหล่านี้จะประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ดังนี้

เบต้าแคโรทีน
ประโยชน์ของเบต้าแคโรทีน

ดูแลรักษาผิวพรรณอันเป็นส่วนของร่างกายที่ดีที่สุดที่จะทำให้ทราบว่าอนุมูลอิสระมีผล
ต่อเราแล้วหรือยัง เช่น ผิวเริ่มเหี่ยวย่น ไม่ผ่องใส
ลดความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง อนุมูลอิสระมีผลเกี่ยวข้องกับมะเร็งเนื้อร้าย การลดปริมาณอนุมูลอิสระเท่ากับลดความเสี่ยงของมะเร็ง ทั้งยังพบว่าเบต้าแคโรทีนให้ผลกระตุ้นเซลล์ภูมิต้านทานในร่างกายที่ชื่อ ที-เฮลเปอร์ให้ทำงานต้านสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น ให้ผลดีกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็ง
บำรุงสุขภาพของดวงตา เบต้าแคโรทีนเมื่อโดนย่อยสลายที่ตับแล้วจะได้วิตามินเอ ซึ่งร่างกายนำไปใช้สร้างสารโรดอปซินในดวงตาส่วนเรตินา ทำให้ตามีความสามารถในการมองเห็นในตอนกลางคืนได้ และยังลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจกด้วย
ชะลอความแก่ เบต้าแคโรทีนให้ผลในการลดความเสื่อมของเซลล์จากอนุมุลอิสระ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดกระบวนการแก่

วิตามินซี
ประโยชน์ของวิตามินซี

เป็นตัวสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทั้งยังเป็นตัวสร้างกระดูก ฟัน เหงือก และเส้นเลือด
ช่วยให้แผลสดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น
ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างเม็ดเลือดทางอ้อม
ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ (Mutation)
ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคนอนหลับตายในกรณีเด็กอ่อน (SIDS: Sudden Infant Death Syndrome)
ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟัน
ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
ช่วยคลายเครียด
การฉีดด้วยวิตามินซีปริมาณสูง อาจช่วยหยุดยั้งโรคมะเร็งได้ โดยวิตามินอาจเข้าทำปฏิกิริยาทางเคมีในเซลล์ มะเร็ง ให้กลายเป็นกรดขึ้น ทำให้เนื้อร้ายชะงักและน้ำหนักลดไปได้ [1]

วิตามินอี
ประโยชน์ของวิตามินอี

เป็นตัวแอนติออกซิแดนท์ คือทำให้เกิดการเผาผลาญโดยมีออกซิเจนเป็นตัวการสำคัญทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดี
เป็นตัวช่วยไขกระดูกในการสร้างเลือด ช่วยขยายเส้นเลือด ต้านการแข็งตัวของเลือด ลดความสามารถในการจับตัวเป็นลิ่มเลือด และลดอัตราเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมองและหัวใจ
บำรุงตับซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับเลือดมาก
ช่วยในระบบสืบพันธุ์ เซลล์ประสาท และกล้ามเนื้อให้ทำงานได้ตามปกติ
ช่วยให้ผิวพรรณสดใส และช่วยสมานแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกให้หายเร็วขึ้น
ช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้นและไม่อ่อนเพลียง่าย


6. ผลไม้ตระกูลส้ม




มีวิตามินซีสูงช่วยลดความเสี่ยงการติดหวัด โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่ หรือยู่ในแวดวงคนสูบบุหรี่


7. อาหารที่เป็นแหล่งวิตามินซี





เช่น ฝรั่ง พริกหวาน สตรอเบอรี่ สับปะรด กะหล่ำปลี ล้วนแล้วแต่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน


8. ขิง





ประโยชน์ของขิง

เหง้า : รสหวานเผ็ดร้อน ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน แก้หอบไอ ขับเสมหะ แก้บิด เจริญอากาศธาตุ สารสำคัญในน้ำมันหอมระเหย จะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ใช้เหง้าแก่ทุบหรือบดเป็นผง ชงน้ำดื่ม แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด แน่นเฟ้อ เหง้าสด ตำคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำมะนาว เติมเกลือเล็กน้อย จิบแก้ไอ ขับเสมหะ
ต้น : รสเผ็ดร้อน ขับลมให้ผายเรอ แก้จุกเสียด แก้ท้องร่วง
ใบ : รสเผ็ดร้อน บำรุงกำเดา แก้ฟกช้ำ แก้นิ่ว แก้ขัดปัสสาวะ แก้โรคตา ฆ่าพยาธิ
ดอก : รสเผ็ดร้อน แก้โรคประสาทซึ่งทำให้ใจขุ่นมัว ช่วยย่อยอาหาร แก้ขัดปัสสาวะ
ราก : รสหวานเผ็ดร้อนขม แก้แน่น เจริญอาหาร แก้ลม แก้เสมหะ แก้บิด
ผล : รสหวานเผ็ด บำรุงน้ำนม แก้ไข้ แก้คอแห้ง เจ็บคอ แก้ตาฟาง เป็นยาอายุวัฒนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น