1. การติดเชื้อรา Aspergillosis
ภาพถ่ายตามขวาง Aspergillosis จากกล้องจุลทรรศน์ , ลักษณะอาการของโรค
เ ชื้อที่เป็นสาเหตุคือเชื้อราในกลุ่มAspergillus สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายได้หลายระบบได้แก่ หู ตา จมูก ไซนัส และปอด การติดเชื้อรานี้บางคนเชื้อจะลุกลามไปยังกระดูก สมอง เยื่อหุ้มสมอง
เชื้อราชนิดนี้ติดต่อโดยการที่หายใจเอาสปอร์เข้าไปในปอดทำให้เกิดติดเชื้อที่ปอด แม้ว่าสปอร์ของราชนิดนี้จะมีอยู่ในอากาศ แต่คนปกติเมื่อหายใจได้รับเชื้อรานี้มักจะไม่เกิดโรค แต่สำหรับคนที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดี เช่นได้รับเคมีบำบัด ได้รับยาsteroid มะเร็ง หรือผู้ที่ใส่เครื่องช่วยหายใจหรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เมื่อได้รับเชื้อนี้จะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ปอด ผู้ที่ติดเชื้อนี้มักจะเสียชีวิตเนื่องจาก
เชื้อมักจะเกิดในคนที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดีเป็นพื้นฐานเช่นผู้ป่วยมะเร็งหรือผู้ที่ได้
รับเคมีบำบัด
ยาที่ใช้รักษาเชื้อราชนิดนี้ยังให้ผลไม่ดีนัก
สาเหตุ
เชื้อ Aspergillus เป็นรูปแท่งมีลักษณะที่สำคัญคือมีการแตกแขนงเป็นมุม 45 องศา เป็นเชื้อราที่พบได้ทุกหนแห่งโดยเฉพาะในดิน น้ำ เศษใบไม้ที่หมักหมม และยังพบได้ตามระบบปรับอากาศ เชื้อที่เป็นสาเหตุได้แก่ A. fumigatus and A. flavus ร่างกายจะได้รับเชื้อนี้โดยการหายใจเอาสปอร์เข้าไป แต่บางคนก็เกิดการติดเชื้อราในหู โดยทั่วไปภูมิของร่างกายสามารถที่จะกำจัดเชื้อนี้ออกจากร่างกาย หากร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อนี้ออกจากร่างกายก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้หลายรูปแ
บบดังต่อไปนี้
2. โรค Histoplasmosis
ภาพถ่ายตามขวาง Histoplasmosis จากกล้องจุลทรรศน์กำลังสูง , ลักษณะอาการของโรค
มักจะเกิดในกลุ่มคนที่แข็งแรง ในกรณีที่ผู้ป่วยติดเชื้อเฉียบพลันและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว มักจะพบในเด็กและบุคคลที่มีภูมิต้านทานเสียไปในผู้ป่วยที่เป้นโรคนี้มาก ๆ และในผู้ป่วยหนุ่มสาวที่มีประวัติแข็งแรงมาตลอด ผู้ป่วยที่เป็นเอดส์จะเป็นโรจิดเชื้อราชนิดนี้นี้ได้ถึง 5 % โดยมากเกิดจากเชื้อที่อยู่ในร่างกายแบ่งตัวเมื่อภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง
ลักษณะอาการของโรค
มีไข้น้ำหนักลด มีรอยโรคที่ผิวหนัง หายใจลำบาก ตัวซีด ต่อมน้ำเหลืองโต อาจจะทำให้เกิดอาการปอดบวมได้
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
เกิดจากเชื้อราฮิสโตพลาสโมซีส แคปซูเลตัม เชื้อรานี้มักจะอาศัยอยู่ในผิวดินที่ชุ่มชื้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่นกหรือค้างคาวถ่ายมูลเอาไว้ เชื้อ ฮิสโตพลาสโมซีส แคปซูเลตัม นี้จะมีสปอร์เล็ก ๆ ฟุ้งกระจายไปในอากาศ และเข้าสู่ร่างกายทางลมหายใจ สปอร์นี้จะเล็กมากจะเข้าไปถึงถุงลมปอด หลังจากเข้าสู่ปอดแล้ว เชื้อนี้จะแบ่งตัวทำให้เกิดก้อนในปอดและทำให้ปอกเป็นโพรงได้
การรักษา
ยาที่ใช้รักษา Itraconazole , Amphotericin-B , Fluconazole , Iiposomal ampho-B
การป้องกันและข้อแนะนำการปฏิบัติตัว
เชื้อนี้จะอยู่ตามพิ้นฝุ่นและที่ชื้น ดังนั้นไม่ควรทำงานที่ทำให้เกิดฝุ่น ทำความสะอาดที่เลี้ยงสัตว์ไม่ให้ชื้น เป็นต้น
3. โรค Cryptococcus
ภาพถ่ายตามขวาง Cryptococcus จากกล้องจุลทรรศน์ , ลักษณะอาการของโรค
เชื้อ Cryptococcus เป็นเชื้อราที่พบในดินและมูลนก การติดเชื้อจะพบในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่นผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ใช้ยา*สเตียรอยด์ เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะไปอยู่ที่ปอด ถ้าภูมิคุ้นกันปกติจะทำงายเชื้อนั้น แต่หากภูมิคุ้มกันไม่ดีเชื้ออาจกระจายไปที่ปอดหรือทั่วร่างกาย
ลักษณะอาการของโรค
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะ มีไข้ ปวดตามร่างกายอ่อนเพลีย คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ในรายที่เป็นมากอาจจะมีอาการปอดบวม และเชื้ออาจจะลุกลามไปอวัยวะอื่น เช่น ปอด ผิวหนัง อาจจะมีต่อมน้ำเหลืองโต และมีผื่นที่ผิวหนัง
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
เกิดจากเชื้อ Cryptococcus neoformans แหล่งอาศัยของเชื้อคือ มูลนกพิราบ แลมูลนกเลี้ยงต่าง ๆ การแพร่กระจายของเชื้อจะฟุ้งกระจายอยู่ตามชั้นบรรยากาศ เมื่อสูดหายใจเอาเชื้อเข้าไปที่ปอด ก็เกิดอาการติดเชื้อได้
การรักษา
ให้ยา Fluconazole ชนิดทานหรือฉีด Amphotericin-B และ 5-flucytosine (5-fc) แล้วตามด้วย Fluconazole
การป้องกันและข้อแนะนำการปฏิบัติตัว
ให้ยาป้องกันการติดเชื้อ Cryptococcus แต่เสี่ยงต่อการดื้อยา สำหรับหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรที่จะได้รับยาป้องกันการติดเชื้อนี้ เนื่องจากเสี่ยงต่อภาวะพิการของทารก ในผู้ป่วยที่เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อนี้ จะต้องได้รับยาป้องกันการติดเชื้อไปตลอดชีวิตโดยการให้ยา Fluconazole
*สเตียรอยด์ : นมครวล
ขอขอบคุณ
หนังสือ รู้ทันป้องกันโรคร้าย และคุณไกรภพ สาระกูล
www.siamhealth.net
granuloma.homestead.com
pathmicro.med.sc.edu
mdconsult.com
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น