วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

เมื่อเป็นโรค”ข้อเข่าเสื่อม”


เมื่อข้อเข่าเสื่อม

ชมรมศัลยแพทย์ข้อเข่าข้อสะโพกประเทศไทย จัดงาน “ข้อเสื่อมบรรเทา ข้อเข่าแข็งแรง” เนื่องในวันโรคข้อสากล เพื่อรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคข้อเสื่อมและแนวทางป้องกันที่ถูกต้อง

รศ.น.พ.ธไนนิธย์ โชตนภูมิ ประธานชมรมศัลยแพทย์ข้อเข่าข้อสะโพกประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า ปัญหาข้อเข่าเสื่อมพบมากในคนที่เข้าสู่อายุสูงวัยตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะมีหลายปัจจัย เริ่มจากการออกกำลังกายน้อย ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีผลให้แรงกระทำผ่านข้อมากขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องการใช้งานของข้อเข่า เช่น การใส่รองเท้าส้นสูง การนั่งยองๆ นั่งขัดสมาธิ ฯลฯ

อาการเริ่มต้นจะมีการปวดหรือเจ็บเวลาเดิน รวมทั้งเวลาขึ้นบันไดหรือนั่งนานๆ ซึ่งจะทำให้ลูกสะบ้ารับแรงเยอะขึ้น และถ้าในขั้นรุนแรงจะทำให้ขาโก่งผิดรูป จนถึงขั้นเดินไม่ได้

สำหรับวิธีการรักษานั้น ทำได้หลายวิธี เริ่มจากการรักษาแบบประคับประคองโดยไม่ต้องผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยที่เป็นน้อยๆ ด้วยการดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย และลดน้ำหนัก ต่อมาคือ การใช้ยาทา นวด กิน ฉีด เพื่อบรรเทาอาการ

และสุดท้ายคือการผ่าตัด ตั้งแต่การส่องกล้องรักษา การจัดแนวกระดูกให้ขาหายโก่ง และเปลี่ยนข้อเข่า ซึ่งปัจจุบันนี้ถือว่าทำได้ง่าย โดยมีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยให้การผ่าตัดแม่นยำขึ้น และผู้ป่วยยังสามารถฟื้นตัวได้เร็ว กลับมาทำกิจกรรมต่างๆ ได้ดีเหมือนเดิม

หออภิบาลคุณภาพชีวิต

ศูนย์มหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี ซึ่งเป็นศูนย์ที่รับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งโดยตรง ได้นำคอนเซ็ปต์การดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายตามหลัก Hospic จากประเทศอเมริกา และถือว่าเป็นผู้บุกเบิกเปิดการรักษาผู้ป่วยตามหลักการนี้ในประเทศไทย

ที่นี่มุ่งเน้นการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายอย่างถูกต้องและให้มีความสุข ช่วยให้ผู้ป่วยต่อสู้กับความกลัว และช่วยส่งเสริม

กำลังใจ โดยเน้นการดูแลผู้ป่วยมะเร็งแบบประคับประคอง และยังมีการเตรียมความพร้อมของญาติและครอบครัวในการดูแลผู้ป่วยต่อเนื่อง เมื่อผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน จนถึงในที่สุดที่เสียชีวิตอยู่ท่ามกลางครอบครัวและญาติพี่น้อง

ทางศูนย์ได้มีการจัดตั้ง “หออภิบาลคุณภาพชีวิต” หรือ Quality of Life Care Unit : QCU ด้วยการตกแต่งสถานที่ภายในหอผู้ป่วยให้มีลักษณะคล้ายบ้าน มีมุมพักผ่อนในบรรยากาศต่างๆ เช่น มุมอ่านหนังสือ มุมนั่งเล่นภายในสวน ห้องนวดแผนไทย ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมผู้ป่วยและญาติให้พร้อมก่อนที่จะกลับไปอยู่ที่บ้าน โดยมีระยะเวลาอยู่ในหออภิบาลประมาณ 14 วัน เมื่อผู้ป่วยพร้อมก็จะส่งกลับไปอยู่บ้าน จากนั้นจะมีทีมพยาบาลและอาสาสมัครออกไปเยี่ยมผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

น่าสนใจเลยว่า จากการรักษาประเภทนี้ ช่วยยืดอายุของผู้ป่วยให้ยาวขึ้น และยังลดการใช้ยาจากการรักษาโรคมะเร็งอีกด้วย

สร้างลูกสู่ความเป็นอัจฉริยะ/

ใคร ๆ ก็อยากเห็นลูกเก่งกันทั้งนั้น หนูดี-วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการสมอง จึงให้เคล็ด (ไม่) ลับ ในการเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยสู่การเป็นอัจฉริยะได้ง่ายๆ โปรดฟังให้ขึ้นใจ

1.ควรให้เด็กมีการเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์สมอง

2.จัดระบบข้อมูลให้เป็นระบบ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายทางความคิด และเมื่อถึงเวลาทำกิจกรรมควรเพิ่มระดับความยากกว่าที่เด็กทำได้เข้าไปเล็กน้อย โดยมีพ่อแม่คอยแนะนำอยู่ใกล้ๆ เมื่อเด็กสามารถทำได้ก็จะเกิดความภูมิใจในตัวเอง

3.สร้างการเรียนรู้ใหม่ ๆ ให้น่าสนใจสำหรับเด็กตลอดเวลา

4.ให้เกียรติระดับความสามารถของเด็ก มีการประเมินเวลาในงานที่มอบหมายให้เด็กอย่างเข้าใจ เช่น กิจกรรมวาดรูปเหมือนจากสัตว์ เด็กอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าที่เราคิดไว้ การวาดภาพ การให้เวลาที่เพียงพอจะช่วยให้เด็กไม่รู้สึกกดดันจนเกินไป

5.ในด้านโภชนาการ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ควรให้เด็กทานมังสวิรัติตั้งแต่เล็ก เพราะเด็กจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน โดยเฉพาะนม ที่ไม่แนะนำให้เปลี่ยนไปทานแบบพร่องมันเนย เนื่องจากการพัฒนาสมองจำเป็นต้องใช้ไขมันในการสร้างเซลล์ประสาท และเส้นใยประสาทต่อไป

ผิวสวยแบบไร้สารพิษ

อาหารและผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพืชผักและผลไม้ไร้สารตกค้างอย่าง “ออร์แกนิก” เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากขึ้น บริษัท คอสเมก้า จำกัด ได้นำเข้า “จุยซ์ บิวตี้” (Juice Beauty) จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นน้ำผลไม้ออร์แกนิกเข้มข้นมากถึง 98% มาผลิตเป็นสกินแคร์บำรุงผิวต่างๆ เช่น เจลทำความสะอาด เซรั่ม มาสก์ ครีม และโลชั่นบำรุงผิว ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะไม่มีน้ำหอมหรือสารเคมีเจือปน

ซึ่งผลไม้แต่ละชนิดจะให้คุณค่าในการบำรุงแตกต่างกัน อาทิ น้ำแอปเปิล องุ่นเขียว แคร์รอต และว่านหางจระเข้ ที่เต็มไปด้วยวิตามิน A, B, C และ E ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือด การสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ที่ช่วยปกป้องผิวจากการเสื่อมสภาพ เป็นต้น

นอกจากนั้น “กลิ่น” ยังเป็นส่วนผสมสำคัญ ซึ่งก็สกัดมาจากพืชออร์แกนิกด้วยเช่นกัน มีทั้งอบเชย คาโมมายล์ ดาวเรือง ลินเด้น ฯลฯ

ที่สำคัญยังต้องระวัง “ออร์แกนิกปลอม” ที่มีผู้อ้างว่าใช้ส่วนผสมที่ทำจากพืชออร์แกนิก แต่แท้จริงแล้วคือน้ำเปล่าเป็นหลัก ซึ่งผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ จากฉลากข้างผลิตภัณฑ์

สปา… สำหรับคนติดจอ

เวลาจะหาสปาผ่อนคลาย ยอมรับค่ะว่า ต้องพิจารณาดูโปรแกรมก่อน ถ้ามีโปรแกรมที่แก้ปัญหาเราได้ก็น่าสนใจ อย่างที่ “ร่วมฤดี เฮลท์ มาสสาจจ์” ในซอยร่วมฤดี ที่นี่มีโปรแกรมนวดที่ทำให้ต้องไปลอง นั่นคือนวดโปรแกรม “คอมพิวเตอร์ ซินโดรม”

โปรแกรมนี้เกิดขึ้นเพราะลูกค้าในละแวกใจกลางเมืองมีอาการเจ็บเฉพาะจุดเนื่องจากการใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งผิดท่า การวางมือแขนผิดตำแหน่ง นั่งงอตัว จดจ่อกับหน้าจอจนไม่มีเวลาผ่อนคลาย ซึ่งมักจะทำให้เจ็บตามจุดกล้ามเนื้อ หลัง ไหล่ คอ ขมับ กระบอกตา ถ้าไม่นวดคลายเส้นอย่างถูกวิธีอาจทำให้เกิดพังผืดและทวีความเจ็บมากขึ้น บางคนมีผลมากจนแขนชา

นี่เองจึงทำให้ที่นี่คิดโปรแกรมนวดพิเศษขึ้นมา โดยนำหลักการของการนวดกดจุดมาใช้ร่วมกับการประคบหม้อเกลือ โดยเริ่มจากการนวดกดจุดสะท้อนกลับ (ฝ่าเท้า/ต้นคอ, หลัง/ไหล่) แล้วก็ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และมาใช้หม้อเกลือมานวดคลายอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ใช้ระยะเวลาประมาณ 45 นาที


ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น